วันจันทร์ที่ 9 กันยายน พ.ศ. 2556

ศิลปนิพนธ์ของสตรีผู้ไม่ย่อท้อ

    ศิลปนิพนธ์ของสตรีผู้ไม่ย่อท้อ


                  สวัสดีเพื่อนๆทุกคน วันนี้ถือเป็นโอกาศที่ดี ที่เราจะมานำเสนอเรื่องราวของศิลปะ คราวนี้เราได้มีโอกาศคุยกับเพื่อนของเรา เพื่อนๆคงเคยเห็นเราพูดถึงเพื่อนคนนี้อยู่หลายครั้งในบล็อกที่ผ่านมา ใช่แล้ว...เพื่อนเราคนนี้ เขารักศิลปะมาก และเขาก็เลือกเรียนสาขาวิชาจิตกรรม สาขาด้านศิลปะที่เขารัก แต่สิ่งที่เราต้องการเล่าถึงเพื่อนเราคนนี้้คือความคิดมุมมองจินตนาการของเขา เขานำเรื่องราวในชีวิตของเขา มานำเสนอเป็นศิลปนิพนธ์ในระดับปริญญาตรี และเขาก็ได้จบการศึกษาแล้วในปีการศึกษา2555ที่ผ่านมานี้ บอกตรงๆเลยว่าเราภูมิใจในเพื่อนเรามาก ใช่ว่าเขาเป็นคนที่วาดรูปเก่งหรืออะไรหรอกนะ แต่เขาเป็นคนมีความอดทนสูงมากในการเรียนและได้ทำในสิ่งที่เขารักอย่างภาคภูมิใจ

เพื่อนเราป่วยเป็นโรคสะเก็ดเงินรุนแรง จนทำให้ไม่สามารถเรามาศึกษา ณ มหาลัยในกรุงเทพที่คนรักศิลปะทุกคนใฝ่ฝันได้ แต่เขาไม่เคยย่อท้อต่ออุปสรรค์และปัญหา เขาเลือกเรียนมหาวิทยาลัยใกล้บ้าน ในคณะจิตรกรรม ที่เขาใฝ่ฝัน ความอดทน ความเจ็บป่วย ทำให้เขาได้สร้างสรรค์ผลงานศิลปนิพนธ์ชุดนี้ ส่วนตัวเราได้มีโอกาสไปช่วยงานและเยี่ยมชมของจริงมาด้วย

   

   

 


ต่อไปนี้จะเป็นการนำเสนอเนื้อหาบางตอนในศิลปนิพนธ์ ชุด "เรื่องราวความเจ็บป่วยและกำลังใจจากแม่"
" THE STORY OF ILLNESS AND THE ENCOURAGEMENT OF MOTHER "

โดย..นางสาว ศุภลักษณ์  วงศ์พรัด      ผู้สร้างสรรค์ศิลปนิพนธ์ชุดนี้


        
   
  

ความเป็นมาและความสำคัญของการสร้างสรรค์

​ในชีวิตของคนทุกคนตั้งแต่เกิดจนโต ย่อมผ่านเรื่องราวต่างๆมากมาย ทั้งช่วงเวลาแห่งความสุขความทุกข์ ผิดหวังหรือเสียใจ สังคม ณ ปัจจุบันนี้เต็มไปด้วยวิทยาการและค่านิยมวัตถุ ทำให้คนเราใช้ชีวิตเพื่อการแข่งขันดิ้นรนต่อสู้เพื่อให้ได้มาซึ่งสิ่งที่ทุกคนต้องการและปรารถนาจนลืมมองคุณค่าของชีวิตและจิตใจ เมื่อเกิดความทุกข์จึงจะมองหาความสุข เพราะความสุขถือเป็นอาหารที่ดีที่สุดสำหรับจิตใจของมนุษย์ และยิ่งถ้าหากชีวิตต้องพบเจอกับความเจ็บป่วยความสุขนั้นจะเกิดขึ้นถือเป็นเรื่องยาก และกำลังใจเท่านั้นคือสิ่งมีค่าที่สุด
​           ข้าพเจ้าก็เป็นอีกคนหนึ่งที่ต้องประสบพบเจอกับความเจ็บป่วย เกิดอุปสรรคในการดำเนินชีวิต ความเจ็บป่วยอาจไม่ใช่ปัญหาของคนทั่วไป แต่สำหรับความเจ็บป่วยของข้าพเจ้าคือจุดเปลี่ยนในการดำเนินชีวิตและใช้ชีวิต รวมไปถึงอนาคตและความฝันที่ไปสามารถทำได้เพราะโรคที่เป็นอยู่สร้างความเจ็บปวดทุกข์ทรมาน ทำให้ข้าพเจ้านึกถึงคำกล่าวที่ว่า “การไม่มีโรค เป็นลาภอันประเสริฐ”  ท่ามกลางกระแสสังคมที่เร่งรีบ และเต็มไปด้วยการแข่งขันในทุกรูปแบบ ด้วยโรคที่ข้าพเจ้าเป็นอยู่ทำให้ข้าพเจ้าได้รับแรงกดดันในการใช้ชีวิต กำลังใจจากคนรอบข้าง ความสุขในจิตใจถือเป็นสิ่งสำคัญ  ความรู้สึกของตนเองจากเรื่องราวของโรคที่เป็นอยู่ ข้าพเจ้ามีจุดประสงค์ให้สังคมได้รับรู้และเข้าใจความรู้สึกทุกข์ทรมานของคนที่ป่วยเป็นโรคที่ได้ชื่อว่า ไม่สามารถรักษาให้หายขาดได้ ที่ยังมีอีกมากมายในสังคม กับโรคที่มีชื่อทางการแพทย์ว่า “Psoriasis” เป็นโรคที่กำลังใจและความเข้าใจเป็นสิ่งสำคัญในการต่อสู้และเยียวยารักษา  ความทุกข์ทรมานจากโรคที่เป็นถือเป็นพันธนาการภายในจิตใจของข้าพเจ้า ที่ต้องการผู้มาดูแลและปลดปล่อยพันธนาการภายใจจิตใจที่เกิดขึ้น และบุคคลผู้นั้นคือแม่ของข้าพเจ้า ผู้ซึ่งคอยดูแล ฟูมฟัก เอาใจใส่ดูแลข้าพเจ้าตลอดเวลาไม่เคยห่างหาย เมื่อข้าพเจ้ามีแม่อยู่ใกล้ๆ ข้าพเจ้ารู้สึกอบอุ่นมีกำลังใจและรู้สึกปลอดภัยเสมอ ข้าพเจ้าจึงอยากสะท้อนมุมมอง ความคิดที่มีต่อตนเองออกมาในรูปแบบของงานจิตรกรรม ที่เล่าเรื่องราวเกี่ยวกับความเจ็บป่วยและกำลังใจจากแม่เพื่อนำเสนอความจริงภายในจิตใจของข้าพเจ้า
ข้าพเจ้าจึงรวบรวมความรู้สึกเหล่านี้ ถ่ายถอดมาเป็นผลงานศิลปนิพนธ์ชุดนี้ เล่าเรื่องราวโรคที่เป็นกับแม่ ของข้าพเจ้าสตรีผู้เป็นแรงใจ

..........วัตถุประสงค์ของการสร้างสรรค์
1. เพื่อสะท้อนเรื่องราวการเจ็บป่วยของข้าพเจ้า
2. เพื่อสะท้อนแนวความคิดภายใต้จินตนาการที่มีต่อความรู้สึกและเรื่องราวความเจ็บป่วยและกำลังใจจากแม่
3. เพื่อให้สังคมได้รับทราบถึงความรู้สึกของผู้ที่ป่วยเป็นโรค “Psoriasis”
4. นำเรื่องราวที่เกิดขึ้นจริงในชีวิตมาสร้างสรรค์เป็นผลงานจิตรกรรม
5. เพื่อถ่ายทอดความอบอุ่นความรักความห่วงใยและกำลังใจที่ได้รับจากแม่ของข้าพเจ้า
6. เพื่อสร้างความแปลกใหม่ในผลงานศิลปะโดยการเล่าเรื่องราวจากโรคและความเจ็บป่วย
7. เพื่อพัฒนาการทำงานและการสร้างสรรค์ผลงานของตนเอง
8. เพื่อให้เกิดประโยชน์ต่อผู้สนใจ และต้องการศึกษางานศิลปนิพนธ์นี้

..........แหล่งข้อมูล
​แหล่งข้อมูลส่วนใหญ่เกิดจากอารมณ์ความรู้สึกภายในจิตใจของข้าพเจ้า ข้าพเจ้านำเอาความรู้สึกในจินตนาการมาถ่ายทอดและนำเสนอในรูปแบบที่สร้างสัญลักษณ์ขึ้นมาเฉพาะตัวภายใต้การสร้างบรรยากาศตามจินตนาการของข้าพเจ้า

..........ที่มาและแนวความคิดสร้างสรรค์
ผลงานชุดนี้เกิดขึ้นจากการพินิจพิจารณาความรู้สึกของตัวข้าพเจ้าเอง เกิดจากความรู้สึกที่มีต่อความเจ็บป่วยของข้าพเจ้า ซึ่งป่วยเป็นโรค“Psoriasis” เป็นโรคที่พบได้น้อยจากจำนวนประชากรทั่วไป เพราะเป็นโรคที่เกิดจากความผิดปกติของเลือดและการทำงานที่ผิดปกติของการถ่ายทอดทางพันธุกรรม และอีกสาเหตุสำคัญของผู้ป่วยโรคนี้คือความวิตกกังวลและความเครียดส่งผลให้การทำงานของระบบโลหิตและผิวหนังผิดปกติ มีลักษณะลอกล่อน บวมแดง และอักเสบรุนแรงตามผิวหนัง ลักษณะอาการของโรคที่เป็นบนร่างกายทำให้ข้าพเจ้าเกิดแรงบันดาลใจในการสร้างสัญลักษณ์ที่เกิดขึ้นในผลงานจิตรกรรม เพื่อเป็นจุดเด่นและเอกลักษณ์ในผลงาน

              ข้าพเจ้านำเอาลักษณะผู้ป่วยมาสร้างสัญลักษณ์ใหม่เป็นตัวแทนของข้าพเจ้าและแม่ในรูปแบบของข้าพเจ้าเองโดยยึดรูปแบบจินตนาการในทัศนะของข้าพเจ้าข้าพเจ้าตัดตอนเอาสรีระของผู้หญิงมาสร้างเป็นรูปแบบเฉพาะ เพื่อเป็นตัวแทนข้าพเจ้าและแม่ สรุปด้วยรูปทรงและสีที่ข้าพเจ้าสร้างสรรค์ขึ้นมา ตามความรู้สึกคุ้นเคยในจินตนาการเวลานึกถึงแม่ และตัวข้าพเจ้าโดยไม่ยึดหลักความถูกต้องตามหลักสรีระวิทยา
              โรคที่ข้าพเจ้าเป็นส่งผลให้ข้าพเจ้าเกิดสภาวะทางอารมณ์ที่เรียกว่าความเครียด ความเครียดก่อให้เกิดความรู้สึกในจิตใจของข้าพเจ้าว่าโรคที่เป็นอยู่นั้นเปรียบเสมือนข้าพเจ้าถูกพันธนาการให้ขาดอิสระในการดำเนินชีวิตเสมือนถูกกังขังอยู่ในกรงเหมือนนกที่ขาดอิสรภาพ ภายใต้ท้องฟ้ากว้างใหญ่ ที่ข้าพเจ้านั้นมองเห็นอยู่แต่ไม่สามารถออกไปตามหาความสุข ความฝันและอิสระในการใช้ชีวิต แต่ข้าพเจ้ามีแม่ผู้ซึ่งคอยดูแลเอาใจใส่ให้กำลังใจคอยอยู่เคียงข้างคอยเติมเต็มความรักอยู่เสมอ เสมือนดอกทานตะวันเปรียบเสมือนกำลังใจให้ต่อสู้กับทุกๆวันและคอคอยแสงตะวันที่สดใส กาน้ำเป็นภาชนะที่ข้าพเจ้าเป็นในทุกๆวันเป็นสิ่งที่แม่ใช้ต้มยาสมุนไพรเพื่อใช้รักษาอาการเจ็บป่วยของข้าพเจ้า ข้าพเจ้าเลยนำเอาสิ่งคุ้นเคยทั้งในความเป็นจริงและในจินตนาการ มาสร้างสรรค์ผลงานจิตรกรรมชุดนี้
              ข้าพเจ้าสร้างสรรค์ผลงานเป็นแนวสัญลักษณ์ (Symbolic) ชุดนี้อิงแนวความคิดตามลัทธิศิลปะและทัศนศิลป์ลัทธิเซอร์เรียลลิสม์ (Surrealism Visual Art) เป็นการแสดงออกอย่างเสรีของจิตไร้สำนึกอย่างแท้จริง ปราศจากสติควบคุมศิลปินกลุ่มนี้พยายามสร้างทัศนศิลป์จากความฝันและความรู้สึกภายในที่แสดงออกภายใต้อิทธิพลของจิตไร้สำนึก มนุษย์ทุกคนมีความรู้สึก มีความคิดความฝันต่าง ๆ ซึ่งเก็บซ่อนอยู่ภายใต้จิตโดยมนุษย์ไม่รู้สึกตัว ถ้าแสดงออกมามนุษย์ก็จะรับรู้ได้ทันทีถึงความฝันนั้น ๆ ว่าจะเป็นจริงหรือไม่เป็นจริง


..........แนวความคิดในการสร้างสรรค์
​               ข้าพเจ้าต้องการนำเสนอเรื่องราวที่เกิดขึ้นกับตนเอง โดยการสร้างสัญลักษณ์เฉพาะตน (Symbolic) นำมาผสมผสานขึ้นโดยการเล่าเรื่องราวด้วยวัตถุที่พบเห็นในทุกๆวันสื่อความหมายภายใต้บรรยากาศที่สร้างสรรค์จากจินตนาการด้วยความรู้สึกที่เกิดขึ้นจากความเจ็บป่วยความทุกข์ทรมานพร้อมทั้งเล่าถึงเรื่องราวของการได้รับการปกป้องดูแลให้ความรักเอาใจใส่จากแม่ผู้เปรียบเสมือนผู้ปลดปล่อยจากพันธนาการความทุกข์ที่เป็นอยู่ของข้าพเจ้า
​ข้าพเจ้าป่วยเป็นโรค โรค “Psoriasis”  ตั้งแต่อายุ 13 ปี จน ณ ปัจจุบัน ข้าพเจ้าอายุ 23 ปี  ตลอดระยะเวลา 10 ปีที่ผ่านมาข้าพเจ้าทนทุกข์ทรมานกับโรคที่แสดงอาการอักเสบรุนแรงทางผิวหนัง ด้วยความที่เป็นเข้าสู่ช่วงวัยรุ่น ก็มีความวิตกกังวลมากขึ้น ความอับอายเมื่อมีคนอื่นพบเห็นลักษณะผิวหนังที่ไม่ปกติทำให้ข้าพเจ้ารู้สึกน้อยใจในโชคชะตาของตนเองมาโดยตลอด ข้าพเจ้าเกิดในครอบครัวที่พ่อและแม่รับราชการทั้งคู่ แน่นอนว่า ท่านเลี้ยงดูข้าพเจ้ามาอย่างดีที่สุดในทุกๆอย่าง และคาดหวังที่จะเห็นข้าพเจ้าประสบความสำเร็จในชีวิต และมีอนาคตที่ดีตามความฝันที่ข้าพเจ้าอยากจะทำ อยากจะเป็น แต่ด้วยโรคที่ข้าพเจ้าเป็น เป็นกรอบ ที่คอยควบคุมการใช้ชีวิต ไม่สามารถทำในสิ่งที่ใฝ่ฝันได้เพราะความเจ็บป่วยของร่างกาย ครอบครัวของข้าพเจ้าพาข้าพเจ้าไปรักษา ในโรงพยาบาลที่ดีที่สุด มีชื่อเสียงที่สุดแต่ก็ไม่เป็นผล เพราะโรคที่ข้าพเจ้าเป็น หากเกิดความเครียด    ก็จะทำให้โรคกลับมาเป็นอีก ข้าพเจ้าจึงต้องควบคุมให้ตนเองอยู่ในสภาวะที่มีแต่ความสุขจลอดเวลา แต่มันมันเรื่องยากในโลกแห่งความเป็นจริงในโลกปัจจุบัน ที่มีทั้งการเรียน การงาน การแข่งขัน กันในทุกรูปแบบ เพื่อได้มาซึ่งอนาคต และสิ่งที่ทุกคนใฝ่ฝันในชีวิต  
​              ข้าพเจ้าไม่สามารถทำอะไรได้ตามความต้องการของตนเองซึ่งมีอยู่มากมาย ทำให้ข้าพเจ้ารู้สึกทุกข์ เหมือนถูกพันธนาการไว้ด้วยการขังขัง ไม่ให้เป็นอิสระ  ความคาดหวังที่จะศึกษาเรียนต่อในสถาบันที่ใฝ่ฝัน ก็ไม่สามารถทำได้เนื่องจากต้องได้รับการดูแลจากแพทย์อย่างใกล้ชิด ข้าพเจ้าจึงรู้สึกหมดอิสรภาพ และหมดหวังหมดกำลังใจในทุกๆสิ่ง
​แต่โชคดีในโชคร้าย ข้าพเจ้ามีครอบครัวที่น่ารักและอบอุ่น คอยดูแลข้าพเจ้าในทุกๆอย่างเอาใจใส่ ห่วงใย ให้ความรักไม่ทำให้ข้าพเจ้ารู้สึกโดดเดี่ยว และแม่ก็เป็นบุคคลหนึ่งในชีวิตที่ข้าพเจ้าอยากนำเอาเรื่องราวของท่านที่คอยดูแลให้ความรักเอาใจใส่ปกป้องข้าพเจ้า เปรียบเสมือนผู้ปลดปล่อยพันธนาการภายในจิตใจที่เกิดขึ้น  ภาพแม่รินยาสมุนไพรที่ใช้รักษาโรคของข้าพเจ้า  กลายภาพที่เห็นจนคุ้นเคย แม่จะเดินเอายามาให้ข้าพเจ้า พร้อมๆกำคำพูด การโอบกอด ให้กำลังใจข้าพเจ้าให้ความรู้สึกเหมือนมีดอกทานตะวันเบ่งบานภายในใจ เกิดกำลังใจขึ้นในทุกๆวันของชีวิต ในผลงานศิลปนิพนธ์ ทั้ง 4 ชิ้น ของข้าพเจ้าเล่าเรื่องราวดังนี้


ชิ้นที่ 1 เล่าเรื่องราวความทุกข์เปรียบเสมือนอยู่ในกรงกักขัง และมีแม่คอยให้กำลังใจ ให้ยารักษา เพื่อเยียวยารักษาสภาพกายและใจของข้าพเจ้า และดูแลข้าพเจ้าในทุกๆวันอย่างใกล้ชิด

 

ชิ้นที่ 2 แม่ได้ปลดปล่อยพันธนาการของข้าพเจ้าให้ออกจากความรู้สึกเหมือนอยู่ในกรงนกเดินมาหาข้าพเจ้าพร้อมดอกทานตะวันช่อโต และยารักษาเช่นเดิม ภายใต้บรรยากาศท้องฟ้าที่สดใสเปรียบดังแสงที่งดงามในชีวิตที่แม่มอบให้

   
ชิ้นที่ 3 ข้าพเจ้าอาการดีขึ้นมีแรงลุกขึ้นเดินเองได้แล้ว แต่ก็ยังคงมีอาการที่ยังต้องเฝ้าระวังอยู่ ในภาพ หม้อยาสมุนไพรถูกผูกพันธนาการแทนกรงนก แสดงให้เห็นว่า ถ้าข้าพเจ้าทนต่อความทุกข์ทรมานในการทานยาได้ ทุกอย่างก็จะดีขึ้น โดยมีแม่คอยกางร่มให้มาพร้อมกับดอกทานตะวันช่อโตเช่นเคย เปรียบดังการที่แม่คอยปกป้องและให้กำลังใจข้าพเจ้าอยู่เสมอ

                       
    
 

ชิ้นที่ 4 พันธนาการความทุกข์ทั้งหมดผูกปลดปล่อยอย่างหมดสิ้น ข้าพเจ้ากลับมามีชีวิตชีวาและใช้ชีวิตปกติได้เองแสดงให้เห็นถึงการกลับมาทำในสิ่งที่ต้องการเองได้ และยังมีแม่ที่คอยดูแลและให้กำลังข้าพเจ้า และอยู่เคียงข้างเป็นห่วงข้าพเจ้าเสมอ

   


บทสรุป

แนวการสร้างสรรค์ผลงานชุดนี้ของข้าพเจ้าเกิดจากความเจ็บป่วยด้วยโรค “Psoriasis” เป็นโรคที่ข้าพเจ้าประสบด้วยตนเองความรู้สึกที่มีต่อโรคที่ขึ้นชื่อว่าไม่สามารถรักษาให้หายขาดได้ ความทุกข์ทรมานจากโรคส่งผลให้ข้าพเจ้าเกิดความเครียดทดท้อหมดกำลังใจในการดำเนินชีวิต แต่ข้าพเจ้าก็ยังมีสตรีผู้หนึ่งที่คอยดูแล เอาในใส่ให้ความรักแก่ข้าพเจ้านั่นก็คือแม่ของข้าพเจ้าเอง ข้าพเจ้าจึงนำเรื่องราวเหล่านี้มาคิดสร้างสรรค์ให้เกิดรูปแบบผลงานศิลปะเฉพาะตัวโดยใช้การแทนค่าด้วยสัญลักษณ์ที่ข้าพเจ้าสร้างขึ้น จากความรู้สึกในจินตนาการส่วนตัว ซึ่งข้าพเจ้าได้รับอิทธิพลในการทำงานที่เล่าเรื่องราวของตนเอง มาจากศิลปิน นั่นก็คือ  ฟริดา คาห์โล (Frida Kahlo) ซึ่งท่านเป็นศิลปินท่านหนึ่งที่สร้างผลงานอันโดดเด่นเป็นเอกลักษณ์โดยใช้ตัวเองเล่าเรื่องราวถึงความทุกข์ทรมานในชีวิต บรรยากาศในจิตนาการ สร้างสัญลักษณ์แทนตนเอง นำเอาวัตถุที่คุ้นเคยและต้องการสื่อถึงความหมาย มาเล่าเรื่องได้อย่างสะเทือนอารมณ์
ผลงานที่ข้าพเจ้าสร้างสรรค์ขึ้นต้องการแสดงให้เห็นถึงอารมณ์ความรู้สึก เรื่องราว ที่ข้าพเจ้าต้องการจะเล่าให้สังคมได้รับรู้ถึงมุมมองคนคนที่ป่วยเป็นโรคเดียวกับข้าพเจ้า ว่าความรู้สึกที่มีต่อโรคที่ไม่สามารถรักษาให้หายขาด ทำให้เกิดความทุกข์และต้องการกำลังใจ ซึ่งผลงานแต่ละชิ้นมีความแตกต่างกัน และน่าสนใจไม่เหมือนกัน จากการพัฒนาภาพร่างทั้ง 4 ชุด แล้วจึงนำภาพร่างที่ลงตัวที่สุดมาขยายเป็นผลงานจริง ลงบนเฟรมผ้าใบ โดยใช้เทคนิคสีน้ำมันบนผ้าใบ



*********ขอขอบคุณ นางสาวศุภลักษณ์ วงศ์พรัด ผู้เอื้อเฟื้อข้อมูล และ ภาพประกอบทุกภาพในบล็อกนี้ 



สัญญาอนุญาตของครีเอทีฟคอมมอนส์



ศิลป์-ศิลปะ โดย Nattinun Boonreang อนุญาตให้ใช้ได้ตาม สัญญาอนุญาตของครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลง 3.0 ประเทศไทย.

อยู่บนพื้นฐานของงานที่ http://5107896-art.blogspot.com/2013/08/normal-0-false-false-false-en-us-ja-th.html.
การอนุญาตนอกเหนือจากที่ระบุไว้ในสัญญาอนุญาตนี้ อาจมีอยู่ที่ http://5107896-art.blogspot.com/2013/08/normal-0-false-false-false-en-us-ja-th.html

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น